ไขข้อสงสัย กินอาหารเสริมไบโอตินดูแลเส้นผม บำรุงเล็บดีไหม 

ใครที่มีปัญหาผมร่วงบ่อย เล็บไม่แข็งแรง หรือต้องการมีผิวสวย และมักจะได้รับคำแนะนำให้ทานอาหารเสริม ไบโอติน บำรุงเส้นผม ดูแลผิว ช่วยให้เล็บแข็งแรง กันบ้าง แล้วเคยสงสัยไหมว่า ประโยชน์ของไบโอตินช่วยได้จริงหรือไม่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า ไบโอตินดีต่อสุขภาพด้านใดบ้าง ทานไบโอตินช่วยลดปัญหาผมร่วงจริงไหม 

ไบโอตินคืออะไร 

ไบโอติน คือ วิตามินที่สามารถละลายน้ำได้ชนิดหนึ่ง ที่มักจะรู้จักในนามว่า วิตามินบี 7 (Vitamin B7) หรือ วิตามินเอช (Vitamin H) โดยไบโอติน มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท การเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยจะทำหน้าที่เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส สำหรับไว้ใช้เป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยให้กรดอะมิโนทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ไบโอตินสำคัญต่อเส้นผม เล็บ และผิวหนังอย่างไร 

หากร่างกายขาดไบโอตินก็จะทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บอ่อนแอลง เนื่องจากผม ผิวหนัง และเล็บของคนเรามีโปรตีนเคราตินเป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้น หากได้รับสารไบโอตินจากการทานอาหารไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารเสริมไบโอตินสามารถช่วยทดแทนในส่วนที่ขาดไปได้ 

อาการขาดไบโอตินเป็นอย่างไร 

สำหรับผู้ที่ขาดไบโอตินมีอาการให้สังเกตจากเส้นผมบางลง ผมร่วงผิดปกติ สีผมเปลี่ยนไป มีผื่นแดงขึ้นรอบบริเวณดวงตา จมูก และปาก อาจมีอาการเหน็บบริเวณแขนและขา เซื่องซึม มีภาวะซึมเศร้า หรือมีอาการประสาทหลอนได้เช่นกัน 

ไบโอตินอยู่ในอาหารอะไรบ้าง

โดยปกติคนเราสามารถได้รับไบโอติน หรือวิตามิน B7 ได้อย่างเพียงพอจากการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว อีกทั้งร่างกายสามารถรียูสไบโอตินที่ใช้ไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้ภาวะการขาดไบโอตินจึงมีโอกาสเกิดได้น้อย ซึ่งเราสามารถได้รับสารไบโอตินธรรมชาติจากอาหารต่อไปนี้ 

อาหารที่มีไบโอตินสูง 

• ไข่แดง 
• กล้วย 
• ธัญพืช
• ถั่วเปลือกแข็ง เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ วอลนัท เป็นต้น
• เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต เป็นต้น 
• ผักต่าง ๆ เช่น เห็ด กะหล่ำ เป็นต้น 

ข้อควรระวัง

คุณค่าสารอาหารไบโอตินลดลงเมื่อได้รับความร้อน ดังนั้น ควรเลือกทานอาหารที่มีไบโอตินที่ผ่านความร้อนน้อยที่สุด เพื่อรักษาและได้รับคุณประโยชน์ของไบโอตินสูงที่สุด 

ปริมาณไบโอตินเท่าไรที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 

วัยและช่วงอายุที่แตกต่างกัน ร่างกายย่อมต้องการสารไบโอตินในแต่ละวันไม่เท่ากัน 

• วัยเด็กเล็ก ควรได้รับไบโอติน ปริมาณ 5 – 12 ไมโครกรัม / วัน 
• วัยเด็กโต ควรได้รับไบโอติน ปริมาณ 20 – 25 ไมโครกรัม / วัน 
• วัยผู้ใหญ่ ควรได้รับไบโอติน ปริมาณ 30 ไมโครกรัม / วัน 
• หญิงตั้งครรภ์ หรือ หญิงให้นมบุตร ควรได้รับไบโอติน ปริมาณ 30 – 35 ไมโครกรัม / วัน 

อย่างไรก็ตาม หากต้องการทานอาหารเสริมไบโอติน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ละเอียด โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร รวมไปถีงผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ หรือมีโรคประจำตัวและต้องใช้ยารักษา เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ 

อาหารเสริมไบโอตินช่วยบำรุงผมได้จริงไหม 

สารไบโอตินธรรมชาติมีส่วนในการช่วยเสริมโครงสร้างเคราติน ที่มีบทบาทสำคัญในเส้นผม ผิวหนัง และ เล็บ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันว่าไบโอตินในรูปแบบอาหารเสริมมีประสิทธิภาพดีต่อสุขภาพผมโดยตรง หรือแม้แต่การช่วยเร่งผมยาว หรือช่วยทำให้ผมสวยเงางามได้ ซึ่งอาจต้องศึกษาหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม 

การใช้อาหารเสริมไบโอติน ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง 

การทานอาหารเสริมไบโอติน ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ เช่น มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ท้องเสีย หรืออาจมีอาการแพ้ไบโอตินได้ เช่น ลมพิษขึ้นบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือมีอาการคอบวม ซึ่งจะต้องไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังกล่าว เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงตามมาได้